ททท.ลุยโปรโมทดึงนักท่องเที่ยวเกย์ ครม.พิจารณากม.แต่งงานเพศเดียวกัน พ.ย.นี้!
Update: 27 Jun 2019วันที่ 30 ต.ค. นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมรับกฏหมายให้เพศเดียวกันในประเทศไทยสามารถแต่งงานกันได้ ที่กระทรวงยุติธรรม จะเสนอเข้าที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนพ.ย.2561 โดยกฏหมายนี้จะเป็นตัวแทนของความเสมอภาคนี้ประเทศไทยมี ททท.จึงเตรียมรุกตลาดกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT : เลสเบี้ยน, เกย์ ไบเซ็กชวล และ คนข้ามเพศ) เพื่อให้เข้ามาเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะตลาดเมืองรองพร้อมรองรับตลาด LGBT
นางศรีสุดากล่าวว่า เมื่อกฏหมายเพศเดียวกันแต่งงานกันได้ การทำตลาดกลุ่ม LGBT ทำไม่ยาก กลุ่มนี้มีอยู่ทั่วไป ทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา ละตินอเมริกา ฯลฯ โดย องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ(UNWTO) เคยรวบรวมพฤติกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไว้ว่ากลุ่มนี้มีความยืดหยุ่นด้านการท่องเที่ยว มีการเนทางท่องเที่ยวปีละไม่ต่ำกว่า 8 ทริป เป็นกลุ่มที่ไม่มีภาระครอบครัวสามารถเที่ยวได้เรื่อยๆ ไม่ต้องรอเที่ยวช่วงลูกปิดเทอม สามารถขายสินค้าเมืองรอง อุดตลาดในช่วงโลวซีซั่นเมื่อตัวเลขนอกฤดูการท่องเที่ยวตกลง
“อย่าเข้าใจผิดว่า ททท.จะหาสินค้าใหม่เพื่อขาย กลุ่ม LGBT ไทยยังขายสินค้าที่มีให้กลุ่มนี้ แต่ด้วยศักยภาพของกลุ่มนี้ที่มีมากกว่ากลุ่มอื่น มีการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 3 เท่า จึงจะเร่งโปรโมทรับกฏหมายใหม่ที่จะออกมาประมาณพ.ย.นี้ กฏหมายนี้ออกมาแสดงไทยมีความเสมอ ททท.จึงพร้อมขายทุกอย่างกลุ่ม LGBT เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ขายสินค้าพิเศษ และเชื่อว่ากลุ่ม LGBT จะสร้างรายได้อุดช่วงโลว์ซีซั่นได้ เพราะไม่ต้องรอครอบครัว ไม่รอลูกปิดเทอม”
นางศรีสุดา กล่าวว่า สำหรับแนวทางการทำตลาดปี 2562 ททท.เน้น 5 แนวทาง ประกอบด้วย 1.go local เน้นส่งเสริมเมืองรอง ด้วยการเลือกพื้นที่ที่มีศักยภาพและพร้อมขายจาก 55 จังหวัด โดยต้องการเห็นทุกสำนักงานต่างประเทศของ ททท.เริ่มขายอย่างน้อย 1 เมืองรอง 2.go high-end มุ่งเพิ่มรายได้ต่อคน โดยในปี 2562 นี้ได้วางเป้าหมายเห็นตัวเลขการใช้จ่ายโตมากกว่า 4% ด้วยการเจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มลักเซอรี่และกลุ่มความสนใจเฉพาะ 3.go new customer มุ่งหาลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้น เพราะที่ผ่านมานักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดินทางซ้ำ 4.go low season ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะตลาดระยะไกล ให้เดินทางมาเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นมากขึ้น และ 5.go digital ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
ทั้งนี้ ททท.จะนำ กลยุทธ์ Go Local ไปโปรโมทผ่านแคมเปญ “Eat Thai, Visit Thai” เพื่อนำเสนออาหารไทยที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชื่นชอบ เป็นสะพานเชื่อมไปยังวิถีถิ่น ผ่านร้านอาหารไทยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา รวมถึงพันธมิตรสายการบินทั้งในเชิงการขายและประชาสัมพันธ์ โดยแคมเปญ Eat Thai Visit Thai จะถูกนำเสนอเป็นแนวคิดหลักของ ททท.ในการเข้าร่วมงานเทรดโชว์ส่งเสริมการขายงานใหญ่ช่วงปลายปีนี้ อย่างเวิลด์ ทราเวล มาร์ท (WTM) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 พ.ย.นี้ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวเชิงอาหาร เชื่อมวิถีกินสู่วิถีถิ่น”